รูปแบบและลักษณะของบ้านไทด่อน(ไทขาว)
ลักษณะเป็นเรือนไม้ยกพื้นสูงเช่นเดียวกันกับเรือนไทดำ แต่ไม่สามารถระบุส่วนต่างๆ ได้ชัดเจน เพราะรูปแบบเรือนมีหลากหลายมากกว่าไทดำมาก มีการประยุกต์และดัดแปลง ต่อเติมส่วนต่างๆของเรือนมากกว่า กล่าวคือการต่อเติมเรือนของไทดำจะขยายออกไปในแนวยาวอย่างเป็นแบบแผนตายตัว แต่บ้านไทด่อนมีการขยายเรือนออกไปทั้งด้านข้างและด้านหลังของตัวเรือน หากมองโดยรวมแล้วก็สามารถจำแนกออกมาได้เป็นระเบียงและตัวเรือน
วิธีการปลูกเรือนของไทด่อนใช้ทั้งเทคนิคการเข้าเดือยและตอกตะปู ส่วนวัสดุที่ใช้ในการสร้างนั้นก็ไม่แตกต่างไปจากเรือนไทดำเลย เนื่องจากไม้ในเขตเวียดนามเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายและมีมากพอในการสร้างเรือน ส่วนรูปทรงเรือนของไทด่อนนั้นมีมากมายหลายแบบและมีขนาดใหญ่ เพราะต่อเติมส่วนต่างๆ ของเรือนมาก จึงพอที่จะจำแนกได้ดังนี้
ส่วนประกอบของเรือนไทด่อน
จะเห็นว่าเรือนของไทด่อนและไทดำนั้นมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทั้งนี้เนื่องจากอาศัยอยู่ในคนละเมือง มีระยะทางที่ห่างไกลกันออกไป แล้วแต่รสนิยมหรือความชอบของแต่ละกลุ่มว่าจะออกแบบตกแต่งเรือนของตนให้เป็นอย่างไร ซึ่งแสดงออกจากการที่ไทด่อนมีรูปแบบเรือนที่หลากหลาย ทั้งในเรื่องของการตกแต่ง วัสดุที่ใช้และขนาดของเรือน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะกลุ่มไทด่อนมีการปรับตัวตามสมัยนิยมมากกว่ากลุ่มไทดำที่ยังมีความเชื่อเรื่องผีอย่างเคร่งครัด สังเกตจากเรือนของชาวไทดำทุกหลังต้องมีห้องผีตั้งอยู่ในห้องแรกของเรือน ก่อนที่จะเป็นห้องนอนของผู้อาวุโส แสดงให้เห็นถึงการเคารพผีอย่างสูงสุดมีความหมายในเชิงสัญญะว่าผีบรรพบุรุษเป็นใหญ่กว่าสิ่งอื่นใด ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวทุกคนจึงควรเคารพและประพฤติตนตามจารีต แม้ว่าผู้ที่เป็นเจ้าของเรือนหรือผู้อาวุโสจะมีสิทธิและอำนาจอันชอบธรรมแต่ก็ต้องยอมรับอำนาจที่เป็นนามธรรมของผี การที่ชาวไทดำมีห้องผีไว้ในเรือนจึงหมายถึงการอยู่ร่วมกันของเชื้อสายเครือญาติเดียวกันแม้จะอยู่ในสถานะใดก็ตาม ดังนั้นผีในโลกทัศน์ของขาวไทดำจึงเปรียบเสมือนเสาหลักของตระกูล เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและสามารถปกปักรักษาสวัสดิภาพของลูกหลานได้
นอกจากห้องผีจะเป็นที่สิงสถิตของบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ก็ยังเป็นที่เก็บ “ถุงไต้” หรือถุงใส่วันเดือนปีเกิดของผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น เสมือนกับการฝากให้ผีบรรพบุรุษเป็นผู้รักษาขวัญของลูกหลานให้ปลอดภัย ดังนั้นความสำคัญของห้องผีในกลุ่มไทดำไม่ใช่เพียงแค่สถานที่กราบไหว้เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษเท่านั้น แต่ยังหมายถึงใจกลางหรือขวัญซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรือนด้วย
จะเห็นได้ว่ารูปแบบเรือนและการตั้งถิ่นฐานของกลุ่มไทด่อนและไทดำในเวียดนามนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความคิดเรื่องผีเป็นอย่างมาก เพราะกลุ่มไทนี้ยังไม่มีแนวคิดความเชื่อด้านศาสนาจากภายนอกเข้ามาปะปนมากนัก แตกต่างจากคนไทกลุ่มอื่นๆ ที่นับถือพุทธศาสนา อย่างไรก็ตามวัฒนธรรมร่วมของคนไททุกกลุ่มที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะอยู่ในดินแดนหรือเขตประเทศใดๆ ก็จะนิยมสร้างเรือนไม้ยกพื้นสูง รวมถึงการตั้งถิ่นฐานที่อยู่ริมแม่น้ำและภูเขา ที่ถือว่าเป็นชัยภูมิที่ดี ในปัจจุบันกลุ่มไทในเวียดนามถูกแบ่งออกเป็น 12 หัวเมืองตามเขตจังหวัดต่างๆ ซึ่งบางเมืองก็ถูกเรียกตามภาษาเวียดนาม แต่กลุ่มไทเหล่านี้ยังไม่ค่อยเปิดรับวัฒนธรรมของคนภายนอกเพราะการนับถือผียังมีความมั่นคงมาก
[1] สรุปผลงานวิจัยโครงการส่งเสริมกลุ่มวิจัย สกว. โครงการภูมิปัญญา พัฒนาการ และความสัมพันธ์ระหว่างกันของเรือนพื้นภิ่นไทย-ไท : คุณลักษณะของสถาปัตยกรรมสิ่งแวดล้อมในเรือนพื้นถิ่น. หน้า 13-14.
[2] สรุปผลงานวิจัยโครงการส่งเสริมกลุ่มวิจัย สกว. โครงการภูมิปัญญา พัฒนาการ และความสัมพันธ์ระหว่างกันของเรือนพื้นภิ่นไทย-ไท : คุณลักษณะของสถาปัตยกรรมสิ่งแวดล้อมในเรือนพื้นถิ่น. หน้า 12-13.
เรื่องเเละภาพประกอบโดย : นางสาวฐาปนีย์ เครือระยา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่